วิตามินบี 2 หรือไรโบฟลาวิน (Riboflavin) ในอดีตเรียกว่า วิตามินจี
ช่วยให้ร่างกายได้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน ช่วยการเจริญเติบโต การสร้างผม ผิวหนัง เล็บ
ช่วยให้ผิวสุขภาพดี ช่วยในการผลิตเม็ดเลือดแดง ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และลดความรุนแรงของไมเกรน

วิตามินบี 2 พบใน นม ไข่ ถั่ว ปลา ธัญพืช ผักใบเขียว เนื้อ มะเขือเทศ ตับ ยีสต์ อัลมอนด์ ร่างกาย ต้องการวันละ 1.8 มิลลกรัม

ปริมานโดยประมาณของวิตามินบี 2 ในอาหาร
-ไข่แดง 1 ฟอง.................มีปริมาณวิตามนบี 2 = 0.6 มิลลิกรัม
-โยเกิร์ตครื่องถ้วย.............มีปริมาณวิตามนบี 2 = 0.3 มิลลิกรัม
-ยีสต์ 1 ช้อนชา................มีปริมาณวิตามนบี 2 = 1.9 มิลลิกรัม
-น้ำนมถั่วเหลืองครึ่งถ้วย....มีปริมาณวิตามนบี 2 = 0.2 มิลลิกรัม

การขาดวิตามินบี 2 ทำให้เกิดแผลที่มุมปากทั้งสองข้างที่เรียกว่าปากนกกระจอก (Angular Stomatitis) ผิวหนังแห้งและแตก ลิ้นอักเสบ
เจ็บลิ้น แผลร้อนใน(Cheilosis) ผิวไวต่อแสง ตาแพ้แสงแดด กลัวแสง ผิวรอบจมูก คิ้วและหูลอก ตาอดงคัน ผื่น น้ำตาไหล ตัวเหลือง ขาบวม
ระบบการทำงานของระบบประสาทผิดปกตื โลหิตจางทั้งจากขาดธาตุเหล็กและเม็ดเลือดแดงผิดปกติ อ่อนเพลีย

วิตามินบี 2 ถูกแสงทำลายได้ ดังนั้นเด็กที่รักษาโรคด้วยการฉายแสงจะทำให้วิตามินถูกทำลาย จึงไม่มีไปทำลายสีของน้ำดี (Bilirubin)
เด็กจึงมีภาวะตัวเหลือง จึงใช้วิตามินบี 2 ในการรักษา

ปริมณที่แนะนำให้รับประทานวิตามินบี 2 (RDA) ในทารก 0.30-0.40 มิลลิกรัม เด็ก 0.60-0.90 มิลลิกรัมต่อวัน
ในผู้ชาย 1.3 มิลลิกรัมต่อวัน และในผู้หญิง 1.1 มิลลิกรัมต่อวัน สำหรับสตรีมีครรภ์ 1.4 มิลลิกรัมต่อวัน และสตรีที่ให้นมบุตร 1 มิลลิกรัมต่อวัน

จาก หนังสือคู่มืออาหารเสริม ฉบับสมบูรณ์ , ดร.เริงฤทธิ์ สัปปพันธ์