โรคระเบิดชั่วคราว (Intermittent Explosive Disorder: IED)

โรคระเบิดชั่วคราว (Intermittent Explosive Disorder: IED)

โรคระเบิดชั่วคราว (Intermittent Explosive Disorder: IED) คืออะไร

โรคระเบิดชั่วคราว หรือ Intermittent Explosive Disorder (IED) เป็นความผิดปกติทางอารมณ์และพฤติกรรม ที่ผู้ป่วยมีการแสดงความโกรธหรือความรุนแรงออกมาอย่างรุนแรงและฉับพลันเกินกว่าเหตุที่กระตุ้นให้เกิดอารมณ์นั้น เช่น การตะโกนเสียงดัง ขว้างปาสิ่งของ ทำร้ายผู้อื่น หรือแม้แต่ทำลายข้าวของ โดยพฤติกรรมนี้ไม่ได้เกิดจากการวางแผนล่วงหน้า และมักจะเกิดซ้ำๆ เป็นระยะ

ลักษณะสำคัญคือ อารมณ์ปะทุแบบฉับพลัน (explosive outbursts) ที่ไม่สอดคล้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหลังจากเหตุการณ์ผ่านไป ผู้ป่วยมักรู้สึกเสียใจ อับอาย หรือรู้สึกผิด


สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง

โรค IED ไม่มีสาเหตุเดียวที่ชัดเจน แต่มักเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ได้แก่

  1. ปัจจัยทางชีวภาพ

    • » ความผิดปกติของสารเคมีในสมอง เช่น ซีโรโทนิน (serotonin) ต่ำกว่าปกติ

    • » ความผิดปกติของระบบการทำงานของสมองส่วนควบคุมอารมณ์

  2. ปัจจัยทางจิตวิทยา

    • » การควบคุมอารมณ์ไม่ดี

    • » รูปแบบการคิดที่มองโลกในแง่ร้ายหรือรู้สึกว่าถูกคุกคามง่าย

  3. ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมและสังคม

    • » การเติบโตในครอบครัวที่ใช้ความรุนแรง

    • » การถูกทารุณกรรมในวัยเด็ก

    • » การขาดทักษะการแก้ปัญหาอย่างเหมาะสม


อาการและลักษณะพฤติกรรม

ผู้ที่มีภาวะ IED อาจมีลักษณะดังนี้

  • » โกรธหรือหงุดหงิดง่ายเกินเหตุ

  • » มีพฤติกรรมรุนแรง เช่น ตะโกน ขว้างปาของ ทำร้ายร่างกายผู้อื่น

  • » อาการเกิดขึ้นทันทีทันใดโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า

  • » ระยะเวลาการปะทุของอารมณ์มักสั้น (ไม่กี่นาทีถึงครึ่งชั่วโมง)

  • » หลังเหตุการณ์มักรู้สึกเสียใจหรือรู้สึกผิด

  • » มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดซ้ำอย่างน้อย 2 ครั้งในช่วงหลายเดือน


ผลกระทบของโรค IED

หากไม่ได้รับการดูแล อาจส่งผลกระทบหลายด้าน เช่น

  • » ความสัมพันธ์ในครอบครัวและสังคมแย่ลง

  • » เสี่ยงต่อการกระทำความรุนแรงทางกายหรือกฎหมาย

  • » เกิดภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล หรือปัญหาสุขภาพจิตอื่นร่วมด้วย

  • » เสี่ยงใช้สารเสพติดหรือแอลกอฮอล์เพื่อระบายความเครียด


การวินิจฉัย

แพทย์หรือจิตแพทย์จะทำการประเมินจาก

  • » ประวัติพฤติกรรมและอารมณ์ที่ผ่านมา

  • » การสัมภาษณ์เชิงลึกและแบบสอบถามด้านจิตวิทยา

  • » การตัดโรคอื่นออก เช่น ไบโพลาร์ โรคจิตเภท หรือปัญหาสารเสพติด


แนวทางการรักษาและดูแล

  1. จิตบำบัด (Psychotherapy)

    • » การบำบัดพฤติกรรมทางปัญญา (CBT) เพื่อเรียนรู้การควบคุมอารมณ์

    • » การฝึกทักษะการสื่อสารและแก้ปัญหา

  2. การใช้ยา (Medication)

    • » ยาต้านซึมเศร้า (SSRIs) เพื่อปรับสมดุลสารเคมีในสมอง

    • » ยาควบคุมอารมณ์ (Mood stabilizers) หรือยากันชักในบางกรณี

  3. การดูแลตนเอง

    • » ฝึกหายใจลึก ๆ หรือเทคนิคผ่อนคลายเมื่อเริ่มรู้สึกโกรธ

    • » ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อลดความเครียด

    • » หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และสารเสพติด

    • » จดบันทึกสถานการณ์ที่กระตุ้นอารมณ์ เพื่อหาทางรับมือที่เหมาะสม


สรุป

โรคระเบิดชั่วคราว (IED) เป็นภาวะที่ทำให้ผู้ป่วยมีการระเบิดอารมณ์รุนแรงและฉับพลันเกินเหตุ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ความสัมพันธ์ และกฎหมาย การตระหนักรู้และเข้ารับการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมอารมณ์และใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น